เกร็ดความรู้เล็กๆเกี่ยวกับดินเซรามิกส์
สวัสดีครับหัวข้อที่เรานำเสนอในวันนี้จะเกี่ยวข้องกับดินในการทำเซรามิกส์
ส่วนจะมีอะไรบ้างนั้นไปดูกันเลย
โดยเซรามิกส์นั้นมีรากศัพท์มาจากภาษากรีกkeramosมีความหมายว่าสิ่งที่ถูกเผา ในอดีตวัสดุเซรามิกส์ที่มีการใช้งานกันมากที่สุดนั้นคือเซรามิกส์ดั้งเดิม ทำจากวัสดุหลักคือดินเหนียว
ส่วนจะมีอะไรบ้างนั้นไปดูกันเลย
โดยเซรามิกส์นั้นมีรากศัพท์มาจากภาษากรีกkeramosมีความหมายว่าสิ่งที่ถูกเผา ในอดีตวัสดุเซรามิกส์ที่มีการใช้งานกันมากที่สุดนั้นคือเซรามิกส์ดั้งเดิม ทำจากวัสดุหลักคือดินเหนียว
โดยดินที่ใช้กันอยู่ทั่วไปจะมีอยู่ด้วยกัน 4 ชนิด ได้แก่
ดินเอิร์ทเทนแวร์(Earthenware)
ดินชนิดนี้อยู่ได้ทั่วไปหาง่ายลักษณะดินมีสีแดงเนื่องจากมีแร่เหล็กเป้นส่วนประกอบทำให้แร่เหล็กช่วยเป็น ฟลักซ์(Flux)ทำให้ดินประเภทนี้ใช้ความร้อนในการเผาที่ไม่มากเนื้อดินก็สามารถสุกตัวได้ลักษณะดินหลังเผามีสีแดงคล้ายอิฐ เนื้อดินแตกง่ายดูดซึมน้ำได้ดีมากไม่เหมาะในการใช้ทำภาชนะใส่อาหารพบได้มากในสินค้าเช่นตุ๊กตาดินเผาโดยดินประเภทนี้ขึ้นรูปด้วยมือได้ง่าย
ดินสโตนแวร์(Stoneware)
ดินประเภทนี้ความพรุนตัวของดินน้อยกว่าดินเอิร์ทเทนแวร์(Earthenware)ดูดซึมน้ำน้อยกว่าและเคลือบเผาได้ง่ายเนื้อดินหลังเผามีสีน้ำตาลนวลหรือขาวนวล ส่วนใหญ่จะนำไปทำภาชนะใส่อาหารหรือโอ่งน้ำ
เหมาะสำหรับใส่อาหาร ดินประเภทนี้ขึ้นรูปได้หลากหลายไม่ว่าจะเป็นหล่อน้ำดิน ขึ้นรูปด้วยมือ หรือ ขึ้นรูปด้วยแป้นหมุน
ดินพอร์ซเลน(Porcelain)
ส่วนใหญ่ดินประเภทนี้มักเจอบนภูเขาสูงเนื้อดินสีขาวก้อนใหญ่แข็งไม่เหมาะในการขึ้นรูปด้วยมือส่วนใหญ่ขึ้นรูปชิ้นงานด้วยการหล่อน้ำดินดินประเภทนี้เมื่อเผาดินแล้วจะมีคุณสมบัติไม่ดูดน้ำโปร่งแสง ส่วนใหญ่ทำผลิตภัณฑ์ใส่อาหารและตกแต่งบ้าน
ดินโบนไชน่า(Bone china)
ดินประเภทนี้มีส่วนผสมของกระดูกขาหลังวัวทำให้เมื่อเผาแล้วเนื้อดินมีตวามขาวมากโปร่งแสงมากและไม่ดูดซึมน้ำหลักจากเผาส่วนใหญ่ขึ้นรูปด้วยการหล่อน้ำดิน ผลิตภัณฑ์เน้นความสวยงามหรูหราส่วนใหญ่มีราคาแพงเหมาะกับการแต่งบ้านมากกว่าใช้สอย ใช้อุณหภูมิในการเผาต่ำกว่าดินพอร์ซเลน
เป็นยังไงกันบ้างสำหรับเกร็ดความรู้เรื่องดินในการผลิตเซรามิกส์หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกคนนะครับเจอกันใหม่ในบทความหน้าขอบคุณครับ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น